แนวทางการพัฒนางานที่มีประสิทธิภาพ
วิทยาลัยนาฏศิลปสุพรรณบุรี
............................................................................
การพัฒนางานที่มีประสิทธิภาพ
ในการบริหารงานไม่ว่าภาครัฐ หรือเอกชน ผู้บริหารและบุคลากรจะต้องมีความพร้อมต่อการแข่งขัน
และพร้อมที่สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา หน่วยงานหรือองค์กรใดที่มีการปรับปรุงและพัฒนาการบริหารงานให้มีประสิทธิภาพในการทำงานและนำมาซึ่งความเจริญก้าวหน้าขององค์กร
จากการจัดกิจกรรมจัดการความรู้ ของบุคลากรวิทยาลัยนาฏศิลปสุพรรณบุรี พบประเด็นในการพัฒนากงาน
โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเด็นหลัก ดังนี้
1. คน
2. การบริหารจัดการ
3. เทคโนโลยี
1.
คน
คน หมายถึง ทรัพยากรบุคลที่ปฎิบัติงานในองค์กร
นับเป็นปัจจัยเบื้องต้นของการ
ทำงาน
ที่ก่อให้เกิดผลผลิตและความสำเร็จของงาน
โดยจำแนกคุณสมบัติ แบ่งเป็นหัวข้อย่อย 8 หัวข้อ ดังนี้
1.1
การมีมนุษยสัมพันธ์ เป็นพฤติกรรมของบุคคลที่มาทำงานในองค์กรหรือหน่วยงาน ที่ผู้ปฏิบัติงานร่วมกัน ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปมาทำงานด้วยกันซึ่งแต่ละบุคคลก็มีบุคลิกลักษณะที่แตกต่างกันไป ตามสภาพสังคมและสิ่งแวดล้อม เมื่อในองค์กรมีผู้ปฏิบัติงานหลายๆ
คน ก็จำเป็นที่แต่ละคนจะต้องปรับตัวเข้าหากัน
เพื่อให้การปฏิบัติงานร่วมกันในองค์กรเป็นไปด้วยความราบรื่นเรียบร้อย
1.2 การมีวินัยในการทำงาน หมายถึง ข้อกำหนดเพื่อควบคุมพฤติกรรมของมนุษย์ในกลุ่มชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งๆ
เช่น กลุ่มชนในโรงเรียน ในโรงงาน กลุ่มตำรวจ กลุ่มทหาร ประชาชนในเทศบาลหนึ่ง ประชาชนในจังหวัด
ประชาชนในประเทศหนึ่งๆ หรือ กลุ่มชนในสังคมโลก แต่ละกลุ่มต่างมีข้อกำหนดให้สมาชิกในกลุ่มต้องยึดถือปฏิบัติ
1.3 การสามัคคีในองค์กร มีความสำคัญมากในการทำงานขององค์กรของหน่วยงาน หากองค์กร
หน่วยงานไหนที่มีทีมงานที่เข้มแข็งย่อมก่อให้เกิดความได้เปรียบในการแข่งขันกับองค์กร
หรือหน่วยงานอื่นที่ขาดความสามัคคีกัน แนวทางในปฏิบัติ คือ
สร้างบรรยากาศที่ดีในที่ทำงาน มีการสื่อสารกันอย่างชัดเจน ควรมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ร่วมสร้างพลังในการทำงานให้องค์กรก้าวหน้าต่อไป
1.4 ความจริงใจต่อเพื่อนร่วมงาน มีความเห็นอกเห็นใจ เอื้ออาทร
และไว้วางใจต่อเพื่อนร่วมงานความจริงใจต่อผู้อื่นเป็นของสำคัญมาก
สำหรับผู้ที่ต้องการความสำเร็จและความเจริญ เพราะสามารถกำจัดปัญหาได้มากมาย
โดยเฉพาะปัญหาอันเกิดจากความกินแหนงแคลงใจ เอารัดเอาเปรียบ
และคนที่จริงใจต่อผู้อื่นนั้น ย่อมได้รับความนิยม เชื่อถือไว้วางใจร่วมมือสนับสนุน
ทำการสิ่งใดจะพบความสำเร็จและราบรื่น จึงให้รักษาความจริงใจให้กันและกันอย่างมั่นคงและถาวร
1.5
ยึดหลักคุณธรรมจริยธรรมในการทำงาน
การทำงานสิ่งใดก็ตามจะให้ประสบความสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สร้างความสุขความพอใจต่อผู้ร่วมงานได้นั้น ทุกคนต้องยึดหลักคุณธรรม จริยธรรมในการทำงาน
คุณธรรมยังเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างผลงาน ที่ซื่อตรง ไม่ทุจริต
ก่อให้เกิดผลดีแก่องค์กร หน่วยงาน สถาบัน และประเทศชาติ
1.6 การพัฒนาตนเอง คือการที่บุคคลพยายามที่จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตนด้วยตนเองให้ดีขึ้นกว่าเดิม เหมาะสมกว่าเดิม
ทำให้สามารถดำเนินกิจกรรม แสดงพฤติกรรม เพื่อสนองความต้องการ แรงจูงใจ
หรือเป้าหมาย ที่ตนตั้งไว้ รวมถึงการศึกษาค้นคว้าหาความรู้ใหม่
ๆ ด้วยตนเองเพื่อนำมาเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้สูงขึ้น
การพัฒนาที่ดีควรกระทำไปอย่างต่อเนื่อง
1.7 ยอมรับความคิดเห็นของเพื่อนร่วมงาน
บุคลากรที่มีความคิดเห็นหลากหลายตามความรู้ ความสามารถ ในสาขาต่างๆ
กัน เมื่อมาทำงานในองค์กรเดียวกัน
ต้องยอมรับความคิดเห็นโดยยึดหลักตามสายงานที่มีหัวหน้างาน กำกับดูแลอยู่หรือให้หลักการแสดงความคิดเห็นตามหลักประชาธิปไตย
1.8 มีความรู้ความเข้าใจในงานของตน เมื่อมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบงานใดๆก็ตาม
ต้องศึกษางานนั้นให้มีความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ชัดเจนในขอบข่าย วิธีการ
แนวทาง ที่พึงปฏิบัตินำไปสู่ความตั้งใจทำงานที่ตนรับผิดชอบให้ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อองค์กร
2.
การบริหารจัดการ
การบริหารจัดการ หมายถึง การจัดการองค์กร
ที่มีกระบวนการขั้นตอน อย่างชัดเจน
แบ่งออกเป็นหัวข้อย่อย 4 หัวข้อ ดังนี้
2.1 มีกระบวนการ PDCA วงจรคุณภาพ
PDCA
มาเป็นเครื่องมือในการบริหารงานอย่างต่อเนื่อง
และนำข้อบกพร่องมาวางแผน แก้ไขในวงรอบการทำงานใหม่ PDCA มาใช้ในกระบวนการปฏิบัติงานจะทำอย่างไรเพื่อให้ได้ผล และมีประสิทธิภาพ
ทำอย่างไรให้บุคลากรในองค์กรมีความเข้าใจและตระหนักในการนำ PDCA มาใช้ขับเคลื่อนสำหรับการปฏิบัติงานของตน ดังนั้นจึงขออธิบายนิยามของ PDCA
ดังรายละเอียดต่อไปนี้
P คือ การวางแผน (Plan
P คือ การวางแผน (Plan
D คือ การลงมือทำ (Do)
C คือ การตรวจสอบ งาน (Check)
C คือ การตรวจสอบ งาน (Check)
A คือ การปรับปรุง แก้ไข
งานให้ดีขึ้น (Act)
Plan (วางแผน) หมายถึง
การวางแผนการดำเนินงานอย่างรอบคอบ
ครอบคลุมถึงการกำหนดหัวข้อ ที่ต้องการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง
ซึ่งรวมถึงการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงาน
อาจประกอบด้วย การกำหนดเป้าหมาย หรือวัตถุประสงค์ของการดำเนินงาน Plan
การจัดอันดับความสำคัญของ เป้าหมาย กำหนดการดำเนินงาน กำหนดระยะเวลาการดำเนินงาน
กำหนดผู้รับผิดชอบหรือผู้ดำเนินการและกำหนดงบประมาณที่จะใช้
การเขียนแผนดังกล่าวอาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของลักษณะ การดำเนินงาน
การวางแผนยังช่วยให้เราสามารถคาดการณ์สิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคต และช่วยลดความสูญเสียต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้
Do (ปฏิบัติตามแผน) หมายถึง การดำเนินการตามแผน อาจประกอบด้วย
การมีโครงสร้างรองรับ
กาดำเนินการ (เช่น
คณะกรรมการหรือหน่วยงานของคณะ) มีวิธีการ ดำเนินการ (เช่น
มีการประชุมของคณะกรรมการ มีการจัดการเรียน การสอน
มีการแสดงความจำนงขอรับนักศึกษาไปยังทบวงมหาวิทยาลัย) และมีผลของการดำเนินการ
(เช่น รายชื่อนักศึกษาที่รับในแต่ละปี)
Check (ตรวจสอบการปฏิบัติตามแผน) หมายถึง การประเมินแผน อาจประกอบด้วย
การประเมิน
โครงสร้างที่รองรับ การดำเนินการ
การประเมินขั้นตอนการดำเนินงาน และการประเมินผลของ
การดำเนินงานตามแผนที่ได้ตั้งไว้ โดยในการประเมินดังกล่าวสามารถ ทำได้เอง
โดยคณะกรรมการที่รับผิดชอบแผนการดำเนินงานนั้น ๆ ซึ่งเป็นลักษณะของการประเมินตนเอง
โดยไม่จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการ อีกชุดมาประเมินแผน หรือไม่จำเป็นต้องคิดเครื่องมือหรือแบบประเมิน
ที่ยุ่งยากซับซ้อน
Act (ปรับปรุงแก้ไข)
หมายถึง การนำผลการประเมินมาพัฒนาแผน
อาจประกอบด้วย การนำผลการประเมินมาวิเคราะห์ว่ามีโครงสร้าง
หรือขั้นตอนการปฏิบัติงานใดที่ควร
ปรับปรุงหรือพัฒนาสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นไปอีก และสังเคราะห์รูปแบบ
การดำเนินการใหม่ที่เหมาะสม สำหรับการดำเนินการ ในปีต่อไป
2.2 กำหนดที่เหมาะสมกับงาน การกำหนดคนที่เหมาะสมกับงาน
โดยนำคนที่มีความรู้ ความสามารถ
และทักษะเฉพาะของงานแต่ด้าน เข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผนและปฏิบัติงานควบคู่กันไป
2.3 มีกระบวนการทำงานเป็นทีมมีกระบวนการทำงานเป็นทีม(Teamwork) โดยการแบ่งกลุ่มย่อยและ มอบหมายภาระหน้าที่ให้สมาชิก
แต่ละคนในกลุ่มสามารถแสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนความรู้
โดยเน้นการประสานงานกันเป็นทีม
2.4 มีกระบวนการวิเคราะห์องค์กร มีกระบวนการวิเคราะห์องค์กร(SWOT Analysis) โดยนำปัจจัยภายใน (จุดแข็ง,จุดอ่อน)
และปัจจัยภายนอก(โอกาส,อุปสรรค) มาวิเคราะห์สถานการณ์องค์กร
โดยใช้จุดแข็งและโอกาส ในการวางยุทธศาสตร์เชิงรุก
และใช้จุดอ่อนและอุปสรรคในการวางแผนเชิงรับ
3. เทคโนโลยี
เทคโนโลยี
หมายถึง การนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ที่มีกระบวนการขั้นตอน
แนวทางพัฒนาในรูปแบบใหม่ รวมถึงนวัตกรรม มาเป็นวิธีการปฏิบัติและประยุกต์ใช้เพื่อช่วยในการทำงานหรือแก้ปัญหาต่าง
ๆ
3.1 มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย
การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการทำงาน
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของงาน ให้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่
ขึ้นอยู่กับบุคลากรด้วยที่จักต้องมีความรู้ความสามารถ เรียนรู้
และมีทักษะในการนำมาใช้ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ด้วยความเข้าใจ
รวมทั้งสามารถขยายผลให้ผู้อื่นได้เกิดการเรียนรู้ และเข้าใจด้วย
จะช่วยให้การดำเนินงานประสบผลสัมฤทธิ์สูง
3.2 มีข้อมูลสารสนเทศที่เป็นปัจจุบัน สารสนเทศเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
เสมือนการเปิดโลกทัศน์ของ การเรียนรู้ที่กว้างขวาง การใช้ข้อมูลสารสนเทศสามารถค้นคว้าหาองค์ความรู้และแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างหน่วยงานต่างๆในองค์กรได้
ดังนั้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมี ควบคู่กัน
ดังที่กล่าวมาข้างต้น เป็นแนวทางการพัฒนางานที่มีประสิทธิภาพ ของบุคลากร
วิทยาลัยนาฏศิลปสุพรรณบุรี ที่ร่วมกันแสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนประสบการณ์
ในกระบวนการจัดการความรู้ (KM) ของฝ่ายสนับสนุน
อันเป็นองค์ความรู้ที่เกิดจากประสบการณ์ตรง แนวการทำงาน ของบุคคล ความเข้าใจองค์กร
สู่กระบวนการพัฒนาที่ดี เป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับสถานศึกษาอย่างมั่นคงสืบไป
วิทยาลัยนาฏศิลปสุพรรณบุรี
.............................................................................................................................................................................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น